Work Text:
อุณหภูมิร่างกายของดีเจเกินคำว่าอุ่นไปโข เสื้อเชิ้ตชุ่มเหงื่อเหมือนพึ่งไปออกกำลังมา ต่างกันตรงที่คนออกกำลังไม่ใส่เสื้อเชิ้ตกระดุมหลุดลุ่ยหรือทำสายตาเชิญชวน ซึ่งจะอย่างไหนก็ล้วนเป็นปัญหาต่อเซนทั้งนั้น
"ไม่เอาน่า" มือสากมุดเข้าใต้สาบเสื้อ ลงน้ำหนักบนผิวหนังเล็กน้อย "นะ ?"
"พี่ดีเจ พี่เมามากแล้วนะ"
"ไม่เลย ไม่สักนิด" เจ้าของชื่อปฏิเสธเสียงป้อแป้
"ใช่สิ พี่ดื่มเมซคัลไปตั้งเยอะ"
ดีเจรู้ว่าตัวเองดื่มเมซคัลไม่ได้ แต่พอโดนยุก็หลวมตัว คึกเป็นเด็กวัยรุ่นเพิ่งบรรลุนิติภาวะ เซนเหวี่ยงอีกฝ่ายลงบนเตียง รู้สึกโมโหขึ้นมานิดหน่อย ไม่ทันจะทำอะไรต่อก็ถูกดึงฉุดข้อมือจนเสียหลักล้มลงบนเตียง คนเมาที่เมื่อกี๊ไม่มีแรงแม้แต่จะพยุงตัวเองพลักเขาลงนอนแล้วบดริมฝีปากลงมา
เซนยอมรับว่าเขาเผลอไผลไปกับริมฝีปากนุ่ม รสแอลกอฮอล์ประเภทที่ไม่ถูกปากเขาเท่าไหร่พอรับจากคนด้านบนก็แอบคิดว่าไม่เลวเหมือนกัน จนกระทั่งดีเจผละออกเพื่อโกยอากาศเข้าปอด นัยน์ตาคู่สวยหวานเยิ้มมองลงมาอย่างพออกพอใจ ริมฝีปากสีสดบวมเจ่อเพราะกิจกรรมเมื่อครู่
“เซน---” เจ้าของชื่อเหวี่ยงร่างคนพูดลงแล้วพาตัวเองลงจากเตียง ก่อนจะโพล่งออกไปโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพูดกับคนตรงหน้าหรือบอกตัวเอง "ไม่ ผมจะไม่ทำอะไรพี่หรอก พี่ไม่ได้อยากทำแบบนี้ มันก็แค่ฤทธิ์แอลกอฮล์ พอตื่นมาพี่ก็จำอะไรไม่ได้อยู่ดี...."
“...” ดีเจชะงัก ส่วนเซนหันหลังเดินออกไป
____________________________
“ไง”
“ไง”
เซนกำลังวุ่นอยู่กับเตาทำอาหารอย่างที่ดีเจเดาไว้ จะฟังอยู่ตะกละหรือเปล่าถ้าเขาบอกว่าที่ตื่นเป็นเพราะกลิ่นเบค่อนชวนน้ำลายสอจากในครัวที่แหละ
“พี่ปวดหัวหรือเปล่า เอาแอสไพรินหรืออะไรแก้เมาค้างไหม ?” เจ้าบ้านปิดเตาแล้วหันกลับมาถามไถ่อย่างมีน้ำใจตามปกติ แต่นั่นทำให้ดีเจไม่สบอารมณ์ ใช่ ไม่สบอารมณ์เพราะการทำตัวแบบปกติเนี่ยแหละ
“ไม่”
“ไม่นี่...พูดถึงปวดหัวหรือไม่เอายากับอะไรแก้เมาค้าง” เซนเลิกคิ้ว หยิบจานไปจัดบนโต๊ะ หันหลังให้เขาอีกครั้ง
“ฉันหมายถึง ไม่...ฉันไม่ลืมเมื่อคืน”
ประโยคนั้นดึงความสนใจจากเจ้าของห้องกลับมาที่เขาได้เป็นอย่างดี และเขาไม่คิดจะพลาดจังหวะนี้ไป ดีเจสบตากับคนตรงหน้าแล้วพูดต่อ
“แล้วที่ฉันทำไป มันไม่ใช่แค่ฤทธิ์แอลกอฮอล์”